1. คอมไพเลอร์และเวอร์ชวลแมชีน (Compiler and Virtual Machine)
* JDK คอมไพเลอร์มาตรฐานของซันไมโครซิสเต็มส์
* GCJ คอมไพเลอร์ภาษาจาวาของโครงการ GCC หรือ GNU Compiler Collection
* Jikes คอมไพเลอร์ที่เดิมพัฒนาโดยไอบีเอ็ม
* GNU Classpath ชุดไลบรารีสําหรับจาวาแพลตฟอร์มโอเพนซอร์ส
* Kaffe
* SableVM
* IKVM คอมไพเลอร์ภาษาจาวาบน .NET แพลตฟอร์ม
* SuperWaba
* JRockit JDK พัฒนาโดยบีอีเอซิสเต็มส์
2. สภาพแวดล้อมสําหรับการพัฒนา (Integrated Development Environment: IDE)
* BlueJ เป็น IDE ที่เหมาะกับการศึกษาโดยเน้นที่แนวคิดเรื่องการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
* Borland JBuilder
* Eclipse IDE โอเพนซอร์ส
* IntelliJ IDEA
* JDeveloper ของบริษัทออราเคิล
* JEdit (เป็นเอดิเตอร์แต่สามารถติดตั้งปลั๊กอินเพื่อเพิ่มความสามารถด้าน IDE ได้)
* JLab ของภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฟรีและเล็กเหมาะกับการศึกษา
* NetBeans โอเพนซอร์ส
* Rational Application Developer ของไอบีเอ็ม
* Sun Java Studio ของซันไมโครซิสเต็มส์
* Visual Age ของไอบีเอ็ม (ปัจจุบันเลิกพัฒนาแล้วถูกแทนที่ด้วย Rational Application
Developer)
* Visual Cafe' ของบริษัท Symantec
* WebSphere Studio Application Developer ของไอบีเอ็มปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย Rational Application Developer
+++ทําความรู้จักกับเครื่องมือในการพัฒนาโปรแกรม Eclipse IDE+++
สําหรับในวิชานี้ จะใช้ Eclipse IDE ในการพัฒนาโปรแกรมภาษาจาวา ซึ่งตัว Eclipse จะไม่เหมือนกับ IDE ตัวอื่นๆ อย่างเช่น Borland JBuilder และ Microsoft Visual J++ นั้น จะเป็น IDE แบบขึ้น
อยู่กับเครื่องมือเป็นหลัก (tool-centric) และผู้พัฒนาโปรแกรมก็จะพัฒนาโดยยึดเครื่องมือที่ให้มาเป็นหลักแต่ในขณะที่ Eclipse จะเป็น IDE ชนิดขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มนั้นๆเป็นหลัก (platform-centric) ซึ่งจะ
ทําให้มีเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาจากแต่ละแพลตฟอร์มถูกรวมเข้ามามากมายภายในตัว Eclipse
IDE จึงถือได้ว่าเป็น IDE ครอบจักรวาล (universal IDE) และนอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มเติมความ
สามารถในการพัฒนาโปรแกรมตัวใดๆก็ได้เพียงแค่พัฒนาตัว plug-in โดยให้อยู่ในแบบมาตราฐานที่
Eclipse กําหนดไว้ซึ่งในปัจจุบันนี้ (2009) ก็มีหลายภาษาที่สามารถถูกพัฒนาอยู่ภายใต้ Eclipse IDE
ตัวอย่างเช่น C/C++, J2ME, J2SE, J2EE, PHP, Java Script, Ruby, และ Python เป็นต้น
Eclipse เป็น Open source ที่ถูกพัฒนาขยายต่อออกจากทางบริษัท IBM และกลุ่มบริษัทพันธมิตร เช่น HP, Intel, SAP, Borland และ Oracle ซึ่งในปัจจุบันนี้กําลังได้รับความนิยมและขยายออกไปสู่นัก
พัฒนาอย่างสูง สําหรับการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษาจาวานั้น Eclipse ก็ได้จัดเครื่องมือที่เป็นประโยขน์
เพื่อเพิ่มความสะดวกและให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการพัฒนาโปรแกรมเช่น syntax hi-lighting สําหรับ
คํา keyword ต่างๆ , เทคนิค code auto-completion สําหรับการพิมพ์ชื่อตัวแปลยาว และการการสร้าง
method อัตโนมัติเป็นต้น
นอกจากนั้นก็มีตัวช่วยที่คอยให้คําแนะนําและอธิบายรายละเอียดในระหว่างการพัฒนาโปรแกรมตลอดเวลา และยังสามารถตรวจเช็คจุดผิดพลาดภายในโปรแกรม เพื่อป้องกันการทํางานที่ผิดพลาด เมื่อทําการสร้างโปรแกรมออกมาจริงๆ เช่น ลืมประกาศตัวแปร พิมพ์อักขระตกหล่น หรือการใช้ชนิดของ
ตัวแปรผิดประเภท เป็นต้น
+++ติดตั้งและใช้งาน Eclipe IDEเบื้องต้น+++
ความต้องการของระบบดังแสดงข้างล่างนี้ความต้องการต่ำสุดแนะนำ
JAVA Version 1.4.0 5.0 หรือสูงกว่า
Eclipse Version 3.3 3.4 หรือสูงกว่า
Memory 512 MB 1 GB หรือมากกว่า
Free disk space 300 MB 1 GB หรือมากกว่า
Processor (CPU) speed 800 Mhz 1.5 Ghz หรือเร็วกว่า
จะมีขั้นตอนโดยสรุปดังนี้ (ซึ่งรายละเอียดและโปรแกรมสามารถเข้าไปในระบบ LMS ของทางภาค
วิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ได้ที่ https://www.ee.buu.ac.th/courseweb/ ในส่วนของรายวิชา Computer
Programming for Engineering Subject)
•เตรียมพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์
•ติดตั้งโปรแกรม Java SDK เวอร์ชั่น 1.4 ขึ่้นไป
•ติดตั้งโปรแกรม Eclipse IDE แนะนําเวอร์ชั่น 3.3 ขึ่้นไป
Dowload Programe Eclipe IDE
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น